ร้อนแบบนี้ ดื่ม Mojito กันดีกว่า



นั่งคิด นั่งนึกอยู่หลายตลบเหมือนกันครับ  ว่าจะนำเสนอเรื่องอะไรดี ... เนื่องจากช่วงนี้ไม่มีเวลาไปรีวิวร้านอาหาร ร้านกาแฟเลย   ... ด้วยอากาศที่ร้อน(โคตรๆ) ณ ขณะนี้ เวลาเกือบ ๆ ตี 3   .. ปากแห้งคอแห้งไปหมด  รู้สึกกระหายพิกลๆ    จู่ ๆ เจ้าเครื่องดื่มแก้วคลาสสิคชนิดนี้ก็ลอยเข้ามาในหัว  Mojito” – โมฮิโต้   (อ่านโมฮิโต้นะครับ ..ตามแบบฉบับของชาวคิวบา ซึ่งเป็นเมืองขึ้นของสเปน และใช้ภาษาสเปนเป็นภาษาประจำชาติ)  หรือบางครั้งคนไทยอย่างเรา ๆ ก็อ่านตรงตัวในแบบฉบับภาษาอังกฤษ  คือ “โมจิโต้” แต่ที่แผลงและเพี้ยนไปเยอะจริง ๆ ก็เห็นจะเป็น “โมจิโตะ” ซึ่งหากใครไม่รู้ที่มาที่ไปของเจ้าเครื่องดื่มชนิดนี้  ก็อ่านแผลงเป็นภาษาญี่ปุ่นไปซะงั้น (คงจะคุ้นเคยกับ yamato หรือ makoto เป็นแน่แท้)   ..   ซึ่งชื่อของค็อกเทลหลาย ๆ ชนิดนั้น สามารถบอกประวัติหรือที่มาที่ไปได้หลาย ๆ อย่างเชียวครับ

แล้วทำไมต้องเป็น Mojito แก้วนี้ที่ผมนึกถึงในช่วงอากาศร้อน ๆ เช่นนี้   ... เนื่องจาก Mojito นั้นเป็นค็อกเทลที่เกิดขึ้นที่ ฮาวานา (Havana) ประเทศคิวบา ซึ่งเป็นหมู่เกาะในแถบทะเลแคริบเบียน   เป็นแหล่งกำเนิดเหล้ารัมที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก  ที่สำคัญประเทศคิวบานี้ ตั้งอยู่ใกล้บริเวณเส้นศูนย์สูตร ซึ่งมีอากาศร้อนไม่แตกต่างกับเมืองไทย   ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมกล่าวมาข้างต้น มีเหตุผลและที่มาที่ไปอยู่ใน Mojito ทั้งสิ้น   เพราะเจ้า Mojito เป็นค็อกเทลที่ดื่มเพื่อดับกระหาย คลายร้อน และให้พลังงาน  แรกเริ่มเดิมทีคล้ายกับเป็นเครื่องดื่มของชนชั้นแรงงาน ที่เอาไว้ดื่มยามพักระหว่างงาน หรือหลังเลิกงาน    รสชาติหลักๆ จะเป็นรสเปรี้ยวและหวาน   มาจากมะนาวและน้ำตาล  .. แต่สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับ Mojito ก็คือ กลิ่นหอมระเหย ของใบมิ้นต์ หรือสะระแหน่ ที่สามารถเติมความสดชื่นให้กับเราได้เป็นอย่างดี ...  (ว่าแล้วก็เปรี้ยวปาก)    ซึ่งเราสามารถทำ Mojito ดื่มเองที่บ้านได้ง่าย ๆ เลยครับ

เริ่มจากนำใบสะระแหน่ประมาณ 10-12 ใบใส่ลงในแก้ว (แก้วร็อคหรือแก้วน้ำขนาดประมาณ 12-14 Oz.) พร้อมด้วยน้ำตาลทรายประมาณ 2 ช้อนชา  ถ้าจะให้หอมขึ้น แนะนำให้ใช้น้ำตาลทรายแดง(น้ำตาลอ้อย)แทน  สีอาจจะไม่สวย แต่กลิ่นและความหวานนั้นชัดเจนกว่า    จากนั้นใส่มะนาวครึ่งลูกหั่นซีกเล็ก ๆ ลงไปในแก้ว  แล้วบดส่วนผสมทั้งหมดด้วย mudler (ถ้าไม่มีสามารถใช้สากครกเล็กๆ  หรือช้อนกินข้าวแทน) พยายามเน้นไปที่ใบสะระแหน่เพื่อให้กลิ่นหอม และไม่ควรเน้นบดที่มะนาวมากนัก เพราะจะทำให้ขมเกินไป   เมื่อบดได้ที่แล้วเติมน้ำแข็งทุบจนเต็มแก้ว  เติมน้ำเชื่อมและมะนาวอย่างละครึ่งออนซ์  จากนั้นเติมเหล้า Rum (เหล้าที่ผลิตจากน้ำตาลหรืออ้อย) ลงไป 1.5 ออนซ์   ซึ่งเหล้ารัมที่เป็นที่นิยมทั่วโลก และมีขายทั่วไปในบ้านเรา ได้แก่ Bacardi และ Havana Club    หรือถ้าใครดื่มไม่ค่อยได้ ดื่มไม่ค่อยหนัก   ใส่เหล้าลงไปเล็กน้อย สัก 0.5-1 ออนซ์ก็เพียงพอ   ขั้นตอนสุดท้ายรินโซดาจนเต็มแก้ว คน...คน...คน...      เพียงเท่านี้ก็จะได้ Mojito  รสเลิศพร้อมให้ดื่มดับกระหาย คลายร้อนได้ทันที  (แต่ถ้าใส่เหล้าเยอะ ดื่มเยอะๆ  ผมว่าอาจจะร้อนกว่าเก่า 55) 

นอกจากนี้ เรายังสามารถ “แผลงสูตร” Mojito ได้อีกมากมาย  โดยการเติมเหล้า น้ำผลไม้หรือน้ำเชื่อมกลิ่นผลไม้ต่าง ๆ ลงไปด้วย เช่น Passion fruit Mojito (เติมน้ำหวานกลิ่นแพชชั่นฟรุต)  Mango Mojito (เติมน้ำมะม่วงลงไปด้วย)  Pina Mojito (เติมน้ำสับปะรด)  และสุดท้ายที่อยากแนะนำ เป็น signature drink ของผมเอง ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสูตรที่โปรดปราน  ก็คือ Mandarin Mojito  ซึ่งผมใช้ Mandarin Vodka แทนเหล้ารัมครับ  ... จะได้กลิ่นส้ม เจือมะนาว เปรี้ยวซ่า สดชื่นจริง ๆ ... อย่างไรก็ดี อย่าดื่มกันเพลินล่ะครับ ไม่งั้นจะเมาไม่รู้ตัวแน่ ๆ  เพราะค็อกเทลแก้วนี้ดื่มง่ายจริงๆ  และที่สำคัญ Drink don’t drive นะครับ Cheers !!!!!!!!


Tips - Mojito เป็นค็อกเทลสูตรยอดนิยมหรือสูตรคลาสสิค  พอ ๆ กับ  singapore sling, mai tai ,   
              pinacolada หรือ margarita  เป็นต้น
           - Mojito ที่ไม่ใส่เหล้า เราเรียกว่า  Virgin Mojito

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม